แก้เสียงรบกวนด้วยฉนวนกันเสียงหรือแผ่นซับเสียง
นิยามของคำว่า “เสียงรบกวน”
เสียงรบกวนคือ
“เสียงที่เราไม่ต้องการได้ยิน” ไม่ว่าเสียงนั้นจะดังหรือเบา
จะเป็นเสียงดังต่อเนื่องหรือเป็นเสียงกระแทก
จะเกิดขึ้นในเวลากลางวันหรือในเวลากลางคืนก็ตาม หากเป็นเสียงที่เราไม่อยากได้ยิน
นั่นคือเสียงรบกวน การวัดระดับเสียงรบกวนมีสองแบบคือ 1)
วัดโดยใช้เครื่องวัดเสียงตามข้อกำหนดและระเบียบวิธีการวัดเสียงรบกวนของกรมควบคุมมลพิษ
ซึ่งระบุให้มีความต่างของเสียงไม่เกิน 10 dBA (ขณะที่มีการรบกวนและขณะที่ไม่มีการรบกวน)
และ 2) วัดโดยใช้ความรู้สึกของผู้ถูกรับเสียง
หากค่าการรบกวนไม่เกิน 10 dBA แต่ปรากฎว่าผู้รับเสียงมีความเดือดร้อนรำคาญ
ทรมานในการใช้ชีวิตประจำวัน ก็ถือว่าเป็นการรบกวนหรือเหตุเดือดร้อนรำคาญ
ซึ่งจะไปสอดคล้องกับข้อกฎหมายของกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข
ทำความรู้จัก “ฉนวนกันเสียง”
ฉนวนกันเสียงหมายถึง
“วัสดุที่มีคุณสมบัติต้านทานพลังงานที่ทำให้ความดันบรรยากาศเปลี่ยนไป” เมื่อระดับความดังเสียงเกิดจากแรงดันอากาศรอบๆตัวเราถูกความสั่นสะเทือนทำให้เปลี่ยนไป
คลื่นพลังงานดังกล่าวที่เข้ามากระทบหูของเรา
ทำให้สมองเราเกิดการรับรู้หรือได้ยินเป็นเสียงต่างๆขึ้นมา
ฉนวนกันเสียงจะทำหน้าที่ต้านทานพลังงานเสียงให้ทะลุผ่านได้ยากที่สุด หรือทะลุผ่านแต่เหลือพลังงานเสียงน้อยลงจนไม่เป็นอันตรายต่อผู้รับเสียง
ฉนวนกันเสียงจะต่างกับวัสดุกันเสียงคือ
ฉนวนกันเสียงโดยมากจะอยู่ในรูปของเส้นใยหรือรูพรุน เช่น ฉนวนใยแก้ว ฉนวนใยหิน
ฉนวนใยโพลีเอสเตอร์ แต่วัสดุกันเสียงจะอยู่ในลักษณะเป็นแผ่น ก้อน ที่มีความหนาแน่นสูง
เช่น แผ่นคอนกรีต อิฐตัน ยางหล่อ แผ่นคอมโพสิต
ทำความรู้จัก “แผ่นซับเสียง”
แผ่นซับเสียงหมายถึง
“วัสดุที่มีความสามารถในการรองรับพลังงานเสียงและมีคุณสมบัติในการสะท้อนเสียงน้อยที่สุด”
แผ่นซับเสียงโดยมากจะมีเนื้อวัสดุที่ไม่ต่อเนื่องกัน เพื่ออาศัยโพรงหรือช่องอากาศในเนื้อวัสดุ
ได้ให้คลื่นเสียงเดินทางผ่านเข้าไปตามช่องว่างเหล่านั้นและเกิดการสะท้อนกลับได้น้อยที่สุด
แผ่นซับเสียงที่ดูดซับพลังงานเสียงไว้ไม่ได้ทั้งหมด
จะยอมให้พลังงานเสียงส่วนเกินทะลุผ่านออกไปยังอีกด้านหนึ่ง ด้วยเหตุผลนี้เอง
หากเราเลือกใช้แผ่นซับเสียงที่ไม่เหมาะสมกับแหล่งกำเนิดเสียงและสภาพแวดล้อม
นอกจากเสียงจะทะลุแผ่นซับเสียงแล้วยังสะท้อนกลับหรือแผ่นซับเสียงนั้นเก็บพลังงานเสียงได้น้อยด้วย
เลือกอะไรดี “ฉนวนกันเสียง” หรือ
“แผ่นซับเสียง”
การจะตัดสินใจเลือกใช้ระหว่างฉนวนกันเสียงหรือแผ่นซับเสียงนั้น
ประการแรกต้องสรุปปัญหาเสียงรบกวนที่เกิดขึ้นให้ได้ก่อนว่าเป็นเสียงรบกวนที่มาจากด้านในหรือว่าด้านนอกห้อง
(พื้นที่รับเสียง)
หากเสียงรบกวนมาจากภายนอกห้องก็จะใช้ระบบฉนวนกันเสียงในการลดเสียงรบกวน
แต่หากเสียงที่ไม่พึงปราถนาเกิดขึ้นภายในห้องหรืออาคารก็ต้องใช้วัสดุหรือแผ่นซับเสียงในการลดเสียงรบกวน
ข้อผิดพลาดที่พบเจอได้มากก็คือ
การนำแผ่นซับเสียงมากรุที่ผนังห้องนอนเพื่อลดเสียงรบกวนจากยานพาหนะบนถนนนอกบ้าน
จริงอยู่ว่าการติดแผ่นซับเสียงในผนังห้องอาจทำให้เสียงจากด้านนอกทะลุผ่านผนังห้องได้น้อยลง
แต่แผ่นซับเสียงก็ยังขาดคุณสมบัติในการกันเสียงที่ดีเหมือนฉนวนกันเสียง
ส่งผลให้เสียงอาจจะเบาลงแต่ความเดือดร้อนรำคาญจากเสียงภายนอกมิได้หมดไปนั่นเอง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น